
05 Jan Italian Classic Furniture
Difference of Hidden Value under the Art of Elaboration
การตกแต่งบ้านพักอาศัยระดับสูงนั้น สิ่งหนึ่งที่จะตกแต่งให้บ้านดูมีคุณค่าและสวยงามยิ่งขึ้น
คงต้องนึกถึงเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเฟอร์นิเจอร์สไตล์คลาสสิกถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการตกแต่งบ้านพักอาศัยระดับสูง ในอดีตนานมาแล้วนั้น เฟอร์นิเจอร์สไตล์นี้จะใช้ในการตกแต่งพระราชวัง บ้านพักอาศัยขุนนางหรือชนชั้นสูงในสังคมของประเทศในแถบทวีปยุโรป รวมถึงบรรดาอัครมหาเศรษฐีทั้งหลายซึ่งล้วนแต่แสดงถึงความภูมิฐาน และบารมีของผู้เป็นเจ้าของในคฤหาสน์เหล่านั้นทั้งสิ้น ต่อมางานเฟอร์นิเจอร์สไตล์นี้ได้มีการพัฒนา และสืบทอดฝีมือช่างจากรุ่นสู่รุ่นจนมีการนำมาใช้ตกแต่งบ้านพักอาศัยระดับสูงไปทั่วโลก ทั้งในประเทศแถบตะวันออกกลาง, ประเทศในทวีปเอเชียต่างๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย รวมถึงประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ลาว รวมถึงประเทศไทยด้วย
อิตาลี คือประเทศผู้ถือกำเนิด และสร้างสรรค์งานต้นแบบเฟอร์นิเจอร์คลาสสิกมาตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน ในประเทศอิตาลีเองมีโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์รวมกันมากถึง 60,000 แห่ง ซึ่งโรงงานเกือบครึ่งหนึ่งนั้นก่อตั้งกิจการมายาวนานตั้งแต่บรรพบุรุษและสืบทอดมรดกกันมาเกินกว่าศตวรรษ แม้แต่ในสมัยพระเจ้าหลุยส์แห่งประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นยุคเฟื่องฟูที่สุดของยุโรปตอนใต้ และมีการใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์คลาสสิกมากที่สุดยุคหนึ่งนั้น ช่างและโรงงานที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ก็ล้วนมาแต่ประเทศอิตาลีทั้งนั้น
บ่งบอกให้เห็นถึงฝีมือช่างที่เป็นทั้งพรสวรรค์ และจิตวิญญาณแห่งศิลปินของชาวอิตาลีโดยแท้จริง
ในงานเฟอร์นิเจอร์สไตล์คลาสสิกนั้น ไม่เพียงแต่ต้องอาศัยความประณีตของช่างแกะสลักเท่านั้น แต่ยังต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ในการสร้างสรรค์ผลงานด้วย เช่น การคำนึงถึงสัดส่วนของเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นให้เข้ากับสรีระของมนุษย์ การเลือกสรรวัสดุในการผลิตให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง รวมถึงการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของชิ้นงานเหล่านี้ เพื่อให้งานเฟอร์นิเจอร์คลาสสิกมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร งานแกะสลักไม้ของเฟอร์นิเจอร์คลาสสิกอิตาลีนั้น ช่างจะแกะสลักให้งานออกมาดูมีมิติ มีความคมชัดของลวดลาย และรูปร่างที่เสมือนจริงมากที่สุด แม้แต่การแกะสลักงานรายละเอียดย่อยๆ เช่น งานแกะสลักใบไม้ ช่างแกะสลักอิตาลีก็จะไม่มองข้ามเช่นกัน ซึ่งมักจะแตกต่างกับงานเฟอร์นิเจอร์คลาสสิกที่ลอกเลียนแบบมาอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากงานแกะสลักแล้ว งานปิดแผ่นทองคำเปลว หรือแผ่นเงินก็ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของงานเฟอร์นิเจอร์คลาสสิกจากอิตาลี เพื่อให้งานเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ดูมีคุณค่า และหรูหรามากขึ้น ช่างจะมีการนำแผ่นทองคำเปลว หรือแผ่นเงินมาปิดทับชั้นบนชิ้นไม้แทนการทาสี ซึ่งต้องใช้ผีมือความประณีต และระยะเวลาในการปิดที่นานกว่า นอกจากนี้แผ่นทองคำเปลว หรือแผ่นเงินเหล่านี้จะมีส่วนผสมของทองคำ หรือเงินแท้ๆด้วย จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมงานเฟอร์นิเจอร์คลาสสิกอิตาลีจึงมีคุณค่า และราคาสูงกว่าเฟอร์นิเจอร์จากแหล่งอื่นๆ ที่มักใช้การทาสีทองปิดผิวแทนการปิดแผ่นทองคำเปลว
การเขียนลายเส้น หรือการวาดภาพด้วยสีน้ำมันบนพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ เช่น ภาพดอกไม้ หรือภาพผู้หญิง ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจิตรกรแต่ละคนเหมือนกับการเขียนภาพสีน้ำมันบนแผ่นผ้าใบ ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ที่ลอกเลียนแบบงานสไตล์คลาสสิกในปัจจุบันจึงมักไม่มีบุคลากรด้านนี้ กอปรกับต้องใช้เวลา และงบประมาณสูงในการผลิตชิ้นงาน ดังนั้นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ลอกเลียนแบบเหล่านี้จึงหันไปใช้เทคนิคการทำเลเซอร์ภาพแทน ซึ่งทำให้เฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นขาดคุณค่าทางศิลปะและรสนิยมไปโดยสิ้นเชิง ในอดีตนั้น นอกจากการเขียนลวดลาย หรือการเขียนภาพบนพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์คลาสสิกแล้ว ก็ยังนิยมใช้งานอินเลย์ไม้มาอัดปิดผิว (press) ลงบนแผ่นไม้เพื่อใช้เป็นลวดลายประดับเช่นกัน ซึ่งงานอินเลย์นั้นก็มีต้นกำเนิดมาจากช่างอิตาลี และมีการพัฒนาเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนให้แก่ช่างด้วย โรงงานผลิตนั้นส่วนใหญ่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี และปัจจุบันมีหลายประเทศที่นำเทคนิคเหล่านี้ไปผลิตอินเลย์เองได้แล้ว เช่น สเปน จีน อินโดนีเซีย หรือแม้ประเทศไทยเองก็ตาม
สำหรับบ้านพักอาศัยระดับสูงแล้ว การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์คลาสสิกจึงถือเป็นเอกลักษณ์ และทำให้งานตกแต่งภายในบ้านพักอาศัยนั้นมีความสมบูรณ์ และมีคุณค่ายิ่งขึ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังบ่งบอกถึงรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ในสายตาแขกผู้มาเยี่ยมชมอีกด้วย