
01 ธ.ค. สัมภาษณ์พิเศษคอลัมน์ HR & CSR หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ องค์กรหลอม “คน” สู่ NUMBER 1
ความสำเร็จของ “ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์” ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจมากกว่า 28 ปี ถูกการันตีด้วยภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำบริษัทรับสร้างบ้านระดับสูง หรือที่เรียกว่าสไตล์คลาสสิก ผ่านการสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบที่ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าให้เป็นจริงสมดั่งปรารถนา
ภายใต้สโลแกนที่ว่า“บ้านคู่บารมี…ของคุณ”
“ดิเอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์” เติบโตจากการพัฒนาผลงานการออกแบบ เทคนิควิธีการสร้าง รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ และวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย จากบ้านหลังแรกที่เริ่มต้นในราคา 5 ล้านบาท (ปี 2531) จนถึงคฤหาสน์หรูมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท แม้ไม่ใช่เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ถือเป็นก้าวย่างที่มั่นคงจากการได้รับด้วยความไว้วางใจจากลูกค้า จนก่อเกิดเป็นความผูกพันระหว่างองค์กรและลูกค้าตลอดมา
โดยอยู่ภายใต้การบริหารงานของ “สุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด ผู้ก่อตั้งและบุกเบิกธุรกิจของตัวเอง อันเกิดจากความมุ่งมั่นที่ต้องการสร้างบ้านในฝันให้กับลูกค้า โดยหวังว่างานบริการจากดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จะเป็นการส่งมอบความสุขได้ทั้งผู้ให้และผู้รับ
ตรงนี้เป็นเจตนารมณ์ของ “สุรัตน์ชัย” ตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจทำธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งย้อนไปเมื่อ 28 ปีที่แล้ว ต้องถือว่าค่อนข้างเป็นคนรุ่นใหม่ที่รับสร้างบ้านในแบบสไตล์คลาสสิกในวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น โดยวางโจทย์ที่ว่าจะทำอย่างไรให้การบริหารงานเป็นเสมือนอาวุธลับในการสร้างบ้านให้ประสบความสำเร็จ ท่ามกลางเศรษฐกิจขาลงในช่วงปีที่ก่อตั้งบริษัท
“สุรัตน์ชัย” ยอมรับว่า แม้การก่อร่างสร้างธุรกิจของผมจะค่อนข้างใหม่ เพราะในอดีตธุรกิจการสร้างบ้านในสไตล์คลาสสิกถือว่าไม่มีผู้เล่นในตลาดไทยเลย แต่ผมมีความมั่นใจว่าเราทำได้ ทีมของผมค่อนข้างเป็นมืออาชีพ แม้จะอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจใด หากลูกค้าเชื่อใจ เราก็เต็มที่กับการทำงาน ดังนั้นลูกค้ารายแรกที่เข้ามา ผมจำได้ว่าเขามีความเชื่อมั่นในตัวผม จึงทำให้เกิดเป็นแรงผลักดัน และถือเป็นการพิสูจน์ตัวเองครั้งสำคัญ
“บ้านหลังแรกที่ออกแบบคือแบบคลาสสิกทรงโรมัน โดยผมจำลองวิหารพาร์เธนอน ตามแบบฉบับกรีกโบราณ ซึ่งเป็นที่ถูกใจของลูกค้าทุกประการ ส่งผลให้เกิดความไว้วางใจและเกิดการบอกปากต่อปาก จากลูกค้ารายที่ 1 สู่รายที่ 2 และที่ 3 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งวันนี้ต้องบอกว่าเราเติบโตด้วยมูลค่าของบ้าน ไม่ได้เติบโตด้วยจำนวนของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น เพราะสิ่งที่เราวัดความสำเร็จคือการสร้างความผูกพันกับลูกค้า และบ้านหลังแรกที่สร้างกับเรา ก็ยังดูแลกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน”
จากวันที่เริ่มต้น “สุรัตน์ชัย” ก้าวเดินอย่างมั่นคงในวัย 55 ปี พร้อม ๆ กับการสร้างแบรนด์ ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างทีมที่แข็งแกร่ง ตลอดจนวางกลยุทธ์การทำการตลาด เพื่อพัฒนา Generation 2 มาบริหารงานต่อ
“เมื่อถึงเวลาที่ผมเกษียณ ผมจำเป็นจะต้องสร้างทีมเข้ามารองรับเพื่อพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้เราย้ำถึงจุดยืนของการเป็นผู้นำตลาดรับสร้างบ้านระดับสูง (Leadership Strategy) นำมาสู่การคิด และพัฒนาอย่างเป็นระบบ ภายใต้การสร้างทีมให้แข็งแกร่ง เพื่อเป็นแรงหนุนสำคัญต่อการเดินไปสู่เป้าหมายนั้น เพราะต้องยอมรับว่าธุรกิจนี้ยากมาก คนที่จะมารับไม้ต่อจากผมจะต้องไม่ใช่ลูก แต่จะต้องเป็นทีมงานที่อยู่กันมา รู้ว่าธุรกิจเราจะไปในทิศทางไหน ต้องเป็นคนที่รักในธุรกิจนี้จริง ๆ หวงแหนและรู้สึกเป็นเสมือนหนึ่งเจ้าของ ซึ่งตอนนี้ผมสร้าง Gen 2 ไว้ 8 คน และสร้างระบบการบริหารงาน โดยมุ่งหวังให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน”
ภายใต้การหลอมรวมจากวัฒนธรรมองค์กร ที่เรียกว่า “NUMBER 1” อันมีความหมาย ประกอบด้วย
N-Never Stop Developing : องค์กรที่ไม่เคยหยุดพัฒนา
“สำคัญที่สุดคือการเดินหน้าด้วยความสามารถ ทั้งคุณภาพของการออกแบบ และการตกแต่งภายในที่ทันสมัย โดยทีมออกแบบจะต้องค้นหาข้อมูลทั้งในโลกออนไลน์ และเดินทางไปสำรวจในสถานที่จริง เพื่อเป็นไอเดียในการออกแบบบ้านคลาสสิกในสไตล์ต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน”
U-Utmost Standard : การให้บริการด้วยมาตรฐานสูงสุดของการสร้างบ้าน
“โดยการจัดตั้งทีมบริการ Empress Service ในการเข้าไปให้บริการดูแล รักษาบ้านอย่างเต็มรูปแบบ หลังการส่งมอบบ้านให้กับลูกค้า เพราะเราเข้าใจดีถึงบ้านที่ผ่านการใช้งานที่ต้องการการดูแลรักษา และซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว ด้วย “Mr. M”ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญในการวิเคราะห์ปัญหา และซ่อมแซมบ้านอย่างถูกวิธี โดยเจ้าหน้าที่จะติดต่อเพื่อแก้ไขภายใน 48 ชั่วโมง”
M-Modernized Organization : องค์กรแห่งความทันสมัย, ยืดหยุ่น และปรับตัวอยู่ตลอดเวลา
“เราจะต้องสร้างบ้านด้วยมาตรฐานที่ทันสมัย และปลอดภัย ซึ่งเราใช้เทคโนโลยีระบบอัจฉริยะเข้ามาใช้เป็นครั้งแรกในวงการรับสร้างบ้านตั้งแต่ปี 2544 รวมถึงวิธีการสร้างบ้านด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ”
B-Beyond Customer’s Expectation : การให้บริการที่เหนือกว่าความคาดหวังของลูกค้า
“ลูกค้าต้องการอะไรเราต้องให้มากกว่า ซึ่งหากเกิดข้อผิดพลาดจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อแสดงออกถึงความเป็นมืออาชีพของเรา เพราะผมเชื่อมั่นเสมอว่า ถ้าสร้างบ้านดี บ้านสวย แต่ไม่สามารถสร้างการบริการที่เป็นเลิศได้ ทุกอย่างก็จบ นอกจากเราจะไม่สามารถสร้างความประทับใจได้แล้ว เราจะไม่สามารถสร้างความเชื่อใจและเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้อีกเลย”
E-Entrepreneurial Thinking & Spirit : มีความคิด และจิตวิญญาณแบบผู้ประกอบการ
“โดยผมพยายามใส่สปิริต จิตวิญญาณของความเป็นผู้ประกอบการ เพื่อให้พนักงานทุกคนมีแรงบันดาลใจในการทำงานเสมือนหนึ่งเป็นเจ้าของร่วมกัน”
R-Responsiveness with Service Mind : การทำงานที่มีการตอบสนองด้วยใจรักในงานบริการ
“ไม่ว่าพนักงานจะอยู่ในฝ่ายทีมสร้าง งานดีไซน์ ฝ่ายบริการ ฝ่ายขาย หรือกระทั่งฝ่ายประสานงาน ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนขององค์กร ดังนั้น ทุกคนจำเป็นจะต้องเข้าใจวิธีการทำงานระหว่างฝ่าย เพื่อให้เกิดการตอบสนองและช่วยเหลือกันด้วยใจรักงานบริการเฉกเช่นเดียวกับการบริการต่อลูกค้า”
1-One Hearted Unity: ทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียว
“ทั้งนั้น เพื่อการนำมาสู่การสร้างทีมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
เมื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรเป็น NUMBER1 สำเร็จแล้ว “สุรัตน์ชัย” บอกว่า เราจะสามารถเพิ่มศักยภาพขององค์กรให้เข้มแข็งในทุก ๆ ส่วน ทั้งทีมก่อสร้าง ทีมออกแบบทีมบริการลูกค้า รวมไปถึงฝ่ายสนับสนุนทั้งหมดอีกด้วย เพื่อนำไปสู่ผลงานการสร้างบ้านที่เป็น “ที่หนึ่ง” ให้กับลูกค้าทุกคน
โดยถือเป็นการยืนหยัดในความแข็งแกร่งของ “สุรัตน์ชัย” ผู้บริหารมืออาชีพ ที่ทำให้ “ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์” วันนี้ก้าวขึ้นแท่นสู่การเป็นผู้นำการสร้างบ้านหรูได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1479961596